เตรียมตัวกู้เงินซื้อบ้านอย่างไร ไม่ให้ติดปัญหาเครดิตบูโร
ปัญหาอย่างหนึ่งในการขอสินเชื่อบ้าน หรือการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อบ้านและที่ดินของนักลงทุนก็คือ ปัญหาถูกขึ้นบัญชีดำในเครดิตบูโร ซึ่งผู้ซื้อจำนวนมากไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองมีปัญหาด้านเครดิตจนถูกขึ้นบัญชีดำ เครดิตบูโรคืออะไร และควรเตรียมตัวกู้เงินซื้อบ้านอย่างไรไม่ให้ติดปัญหาเครดิตบูโร เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องเรียนรู้และหาคำตอบก่อนขอสินเชื่อบ้านที่จะยื่นต่อสถาบันการเงิน
เครดิตบูโร คืออะไร
เครดิตบูโร (Credit Bureau) เป็นชื่อของบริษัทข้อมูลเครดิต ซึ่งเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตหรือสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นสมาชิก แล้วนำมาประมวลผลเพื่อบริการให้กับสถาบันการเงิน สำหรับเรียกใช้เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาเครดิตในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่เสนอคำขอกู้ต่อสถาบันการเงินนั้นๆ
รายงานข้อมูลเครดิตที่จัดทำโดยเครดิตบูโร จะมีลักษณะเป็นรายงานแสดงประวัติการชำระสินเชื่อย้อนหลังไม่เกิน 24 เดือน หากเป็นลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้ก็จะมีการบันทึกไว้ในรายงานให้เห็นนับจากเคลียร์หนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นระยะเวลา 5 ปีจึงจะลบออก และเมื่อสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีการพิจารณาปล่อยสินเชื่อก็จะทำการตรวจสอบประวัติลูกค้าจากรายงานข้อมูลของเครดิตบูโร หากพบว่าลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านรายใดมีปัญหาในการชำระหนี้มาก่อน หลักปฏิบัติของสถาบันการเงินก็คือการปฏิเสธในการให้กู้ ทั้งๆที่ลูกค้าอยู่ในฐานะที่มีกำลังในการผ่อนชำระได้ดี
เตรียมตัวกู้เงินซื้อบ้านอย่างไร ไม่ให้ติดปัญหาเครดิตบูโร
การบริหารจัดการเครดิตส่วนตัว เพื่อเตรียมการให้พร้อมก่อนตัดสินใจซื้อบ้านและป้องกันการติดปัญหาเครดิตบูโรในการยื่นขอสินเชื่อ มีแนวทางปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้
1.ใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง ไม่ควรมีบัตรเครดิตหลายใบเพราะหากจำเป็นต้องขอสินเชื่อ สถาบันการเงินอาจมองว่ามียอดอนุมัติสินเชื่อไปแล้วในวงเงินที่สูง
2.ต้องรักษาสถานะความเป็นลูกหนี้ที่ดี ผ่อนชำระตรงเวลาอย่างมีระเบียบวินัย
3.หากมีปัญหาในการผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงิน ต้องติดต่อสถาบันการเงินเพื่อเจรจาขอผ่อนผัน หรือขอยืดระยะเวลาเพื่อไม่ให้มีประวัติค้างชำระ
4.สำหรับผู้ที่ติดบัญชีดำในเครดิตบูโร ถ้ามีความประสงค์จะซื้อบ้านอาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยการหาผู้กู้ร่วม หรือเจรจาเปลี่ยนมาใช้การเช่าซื้อแทนการกู้ซื้อบ้านไปพลางๆก่อน ซึ่งพอดำเนินการได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงค่อยยื่นขอกู้ในขั้นตอนปกติต่อไป
5.ควรตรวจสอบข้อมูลเครดิตตนเองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จากบริษัทข้อมูลเครดิตบูโร เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
การบริหารจัดการเครดิตของตนเอง และการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะถือเป็นการเตรียมความพร้อมของตนเองในการกู้เงินซื้อบ้านต่อสถาบันการเงิน โดยไม่มีปัญหาในเรื่องเครดิตบูโร หรือหากมีก็สามารถหาแนวทางแก้ไขให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี